เลี้ยงไส้เดือน ช่วยกำจัดเศษอาหาร สร้างปุ๋ยหมักให้แปลงผัก
หลายคนพอเริ่มลงมือปลูกผักบ้างแล้ว
ก็เริ่มสนใจที่จะขยับขยายหาวิธีทำให้ดินของตัวเองอุดมสมบูรณ์ขึ้นเรื่อยๆ บางคนก็อาจเริ่มจากการทำน้ำหมักชีวภาพ
ทำปุ๋ยหมัก ทำดินหมักไว้ใช้เองมากขึ้น และเชื่อว่าหลายคนก็คงจะสนใจเรื่องการเลี้ยงไส้เดือน
เพื่อช่วยผลิตปุ๋ย แถมยังช่วยกำจัดเศษผัก ผลไม้ ที่เหลือทิ้งไปอย่างน่าเสียดายได้อย่างดีด้วย
ส่วนเรื่องรูปแบบ
เทคนิควิธีการในการเลี้ยงไส้เดือนของแต่ละที่ก็อาจจะแต่ต่างกันไป ที่นำมาแนะนำคราวนี้
แบ่งปันมาจากธรรมชาติฟาร์ม ซึ่งครูวิวิช โพธิเวช ได้เขียนแบ่งปันไว้ในหน้าเพจ @
ธรรมชาติฟาร์ม
ซึ่งหากใครอ่านแล้วต้องการพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้เพิ่มเติม ก็เชิญไปได้ที่หน้าเพจเลยนะคะ
สายพันธุ์ไส้เดือนที่ทางธรรมชาติฟาร์มเลือกคือแอฟริกัน
ไนท์ครอเซอร์ หรือ AF เป็นพันธุ์ที่นำเข้ามาเลี้ยงในบ้านเรานานแล้ว ผ่านการทดลอง แล้วว่าเหมาะสม
ทั้งเรื่องการเจริญเติบโต การขยายพันธุ์ที่รวดเร็ว และคุณภาพของปุ๋ย ที่เกิดจากการหมัก
และย่อยสลายจากจุลินทรีย์ภายในตัวไส้เดือน จึงเป็นสายพันธุ์หนึ่งที่ได้รับความนิยมเลี้ยงกันแพร่หลาย.....
รูปแบบการเลี้ยงไส้เดือนก็ทำได้หลายรูปแบบ
เช่นการเลี้ยงในกะละมัง การเลี้ยงในวงปูน การเลี้ยงในบ่อพลาสติกสีดำ การเลี้ยงในลิ้นชัก
หรือการเลี้ยงในอ่างปูนสี่เหลี่ยม ซึ่งการสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมของตัวเอง
เช่น ก่อนอื่นก็ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ว่าเราจะเลี้ยงไส้เดือน เพื่ออะไร คือ เลี้ยงเพื่อทำปุ๋ยหมัก
สำหรับใช้เอง ..............หรือ เลี้ยงเพื่อต้องการผลิตปุ๋ย และผลิตตัวไส้เดือน เพื่อขายเป็นการค้า.......
สำหรับที่ธรรมชาติฟาร์มใช้การเลี้ยงไส้เดือนในอ่างปูนสี่เหลี่ยม
ซึ่งเดิมเคยเป็นที่เลี้ยงปลามาก่อน แต่ปัจจุบันไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรแล้ว ก่อนที่จะปล่อยไส้เดือนลงไปในอ่าง
ก็ต้องหมักปุ๋ยหมักเพื่อเป็นอาหารหลัก ในการเลี้ยงไส้เดือน เพื่อผลิตปุ๋ยหมักมูลไส้เดือนวิธีการทำก็คือ
1. ให้นำปุ๋ยคอก ซึ่งที่ธรรมชาติฟาร์มจะใช้ขี้ม้าแห้งซึ่งหาได้ในท้องถิ่น
มาใส่ลงในอ่างปูนให้สูงพอสมควร รดน้ำให้เปียกชุ่มจนทั่ว แล้วใช้น้ำหมักชีวภาพที่หมักจากพืชผักสีเขียวรดให้ทั่ว
เพื่อให้จุลินทรีย์ช่วยย่อยสลายปุ๋ยหมัก ให้สลายตัวเร็วยิ่งขึ้น โดยปกติก็จะใช้เวลาในการหมักประมาณ
7-10 วัน ในระหว่างนี้ ต้องช่วยคลุกเคล้า กองปุ๋ยไปมา 2-3 วันครั้ง เนื่องจากกระบวนการหมักจะทำให้เกิดความร้อนในกองปุ๋ย วิธีดูว่าปุ๋ยหมักนี้ได้ทีพร้อมจะนำไปเลี้ยงไส้เดือนหรือยัง
ก็คือดูว่าความร้อนหมดไปหรือยังนั่นเอง
2. ปล่อยไส้เดือนลงไป
ให้ไส้เดือนคุ้นเคยกับปุ๋ยหมักซึ่งเป็นอาหารหลักสักระยะหนึ่ง จากนั้นก็สามารถเริ่มให้อาหารเสริมได้
ไม่ว่าจะเป็นเศษผัก เศษผลไม้สุก เช่นพวกกล้วย มะละกอ โดยวิธีให้ก็คือให้ฝังลงไปในปุ๋ยเป็นจุดๆ
แนะนำว่าให้ให้ครั้งละไม่ต้องมากนัก เมื่อหมดแล้วจึงค่อยให้ใหม่ การให้อาหารเสริมนี้จะช่วยเร่งการเจริญเติบโต
การเจริญพันธุ์ การขยายพันธุ์ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และจะได้ปุ๋ยหมักมูลไส้เดือนที่มีคุณภาพดีกว่าใช้ปุ๋ยคอกเป็นอาหารหลักอย่างเดียว
3. หลังจากเลี้ยงไส้เดือนไปประมาณ
1 เดือนครึ่ง เราก็จะเริ่มเห็นลูกหลานตัวเล็กๆ ซึ่งถ้าเรามีการวางแผนการจัดการที่ดี
เราก็จะสามารถผลิตปุ๋ยและตัวไส้เดือน ได้จำนวนมากในเวลาไม่นาน แนะนำว่า ถ้าเราเริ่มต้นการไส้เดือน
1 อ่าง (พ.ท.1*1 ม.) ใช้ปริมาณไส้เดือนจำนวน 1/2 ก.ก. เมื่อระยะเวลาเลี้ยงผ่านไปประมาณ
1 เดือน เราต้องเตรียมอ่างเพิ่มใหม่อีก 1 ใบ แล้วหมักมูลสัตว์เตรียมพร้อมเอาไว้
พอได้เวลาประมาณ เดือนครึ่ง ลองสังเกต พลิกปุ๋ยที่เลี้ยงดูว่าเริ่มมีตัวอ่อนในบ่อเลี้ยงแล้วหรือยัง
ถ้ามีตัวเล็กๆเยอะ มองดูแล้วหนาแน่น เราก็ทำการแยกคัดตัวพ่อแม่พันธุ์ไส้เดือนออก
คือย้ายพ่อแม่พันธุ์จากบ่อเก่าไปยังบ่อใหม่ที่มีปุ๋ยหมักเตรียมพร้อมไว้แล้ว เพื่อให้พ่อแม่พันธุ์ได้กินอาหารใหม่ ทำการผลิตปุ๋ยและขยายพันธุ์
ต่อไป
4. ส่วนลูกตัวเล็กๆในบ่อเก่า ก็ใช้เวลาเลี้ยงต่อไปอีกจน ครบ 3 เดือน เราก็จะได้ปุ๋ยหมักมูลไส้เดือนที่สมบูรณ์
สามารถนำไปใช้ได้ พร้อมกับรุ่นลูก ที่โตพอที่จะคัดไปเป็นพ่อแม่พันธุ์ได้อีก...
เห็นมั้ยครับว่าปริมาณที่ได้จะเริ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ เพียงแต่เราต้องเตรียมความพร้อม
คือต้องเตรียมบ่อเลี้ยงให้เพียงพอ เตรียมหมักปุ๋ย ให้ต่อเนื่อง จากการเริ่มต้นเลี้ยงไส้เดือน
ที่ 1/2 ก.ก. จะเพิ่มปริมาณมากขึ้น อย่างมาก ในเวลาไม่กี่เดือน ที่สำคัญหลังจากปล่อยไส้เดือนลงไปในบ่อแล้ว ก็ควรจะหาแผ่นตาข่ายปิด
เพื่อช่วยป้องกันศัตรูอย่างพวกหนู กระรอก นก แมวมาทำร้ายด้วย แล้วก็อย่าลืมให้อาหาร
และดูแลความชื้นให้เหมาะสมอยู่เสมอด้วยนะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น